ถังเก็บน้ำคอนกรีตหรือบ่อน้ำดีคอนกรีตขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีในทุกอาคารหรือโครงการก่อสร้างใหญ่ๆ เช่น คอนโดมีเนียม หอพัก โรงงาน อาคารทั่วๆไป ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น จำเป็นต้องมีถังพักน้ำดีสำรองน้ำดีขนาดใหญ่ เพื่อใช้ในการจ่ายน้ำเข้าสู่ระบบอาคารหรือโรงงาน และยังใช้เป็นน้ำสำรองเผื่อฉุกเฉินในกรณีที่น้ำประปาขาดเคลน เราจะเห็นได้ว่าบ่อน้ำดีคอนกรีตต้องมีการก่อสร้างแทบจะทุกโครงการก่อสร้าง
การก่อสร้างบ่อน้ำดีมีทั้งแบบอยู่บนดิน อยู่ใต้ดิน และอยู่บนอาคารหรือดาดฟ้า ขึ้นอยู่กับการออกแบบระบบน้ำในแต่ละโครงการ การก่อสร้างบ่อน้ำดีต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ความคงทน และป้องกันการรั่วซึม เป็นสำคัญ ซึ่งปัญหาการรั่วซึมนี้ พบเจอมากเนื่องจากการก่อสร้างในบ้านเราให้ค่าต่อความแข็งแรงเป็นสำคัญแต่อาจจะลดความสำคัญในการป้องกันการรั่วซึม เหตุผลคือคิดหรือนึกคิดว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สำคัญ แต่ในความเป็นจริงการรั่วซึมจากแทงค์น้ำหรือบ่อน้ำนี้เป็นสิ่งที่เป็นปัญหามาก เมื่อเกิดการรั่วซึมในแทงค์น้ำหรือบ่อน้ำดี ดังนั้นการก่อสร้างบ่อน้ำดีขนาดใหญ่ จำเป็นต้องมีอุปกรณป้องกันน้ำรั่วเช่น waterstop , waterproofing on joint ระบบกันซึม และงานกันซึมรอยต่อต่างๆ เป็นอย่างดีและควรใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้เกิดความทนทานในการใช้งานในระยะยาว
ดังนั้นเมื่อเกิดการรั่วซึมจากบ่อน้ำดีขนาดใหญ่แล้วการซ่อมจำเป็นต้องใช้วิธีต่างๆ โดยแบ่งการซ่อมเป็นสองแบบคือ ซ่อมแบบปิดระบบน้ำทั้งหมดและดูดน้ำออกเพื่อซ่อมจุดที่รั่วซึม และแบบที่สองคือซ่อมโดยไม่ต้องดูดน้ำออก ซ่อมโดยที่น้ำยังมีเท่าเดิม โดยวิธีแรกน้้นเป็นการซ่อมแบบบูรณาการคือเรียกว่าซ่อมแบบเต็มระบบ มีลำดับขั้นตอนการซ่อมทั่วๆไปดังนี้
การซ่อมแบบนี้ต้องทำการนำน้ำที่อยู่ในแทงค์น้ำคอนกรีตออกทั้งหมดจึงจำเป็นต้องมีระบบพักน้ำสำรองเผื่อเรียกใช้ในอาคารให้เพียงพอ คำนวณปริมาณน้ำที่ใช้ในแต่ละวัน คำนวณอัตราการสูบน้ำขึ้นอาคารและเลือกใช้ถังพักน้ำสำรองให้เพียงพอ ทั้งนี้ยังต้องคำนึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ปั๊มน้ำอาจจะต้องทำงานหนักขึ้น อาจจำเป็นต้องมีเครื่องปั๊มน้ำสำรองฉุกเฉิน
ดูดน้ำที่เหลือก้นถังพร้อมทั้งขี้โคลนหรือเศษขยะที่เหลือในถังให้หมดไป พร้อมทั้งทำความสะอาดแทงค์น้ำหรือถังน้ำดีด้วยการล้างด้วยน้ำสะอาดหนึ่งเที่ยว
ตรวจสอบรอยร้าว รอยแตก สนิมเหล็ก โดยเลือกการซ่อมให้ตรงกับลักษณะแผลของผิวหน้าคอนกรีตที่เสื่อมสภาพ กรณีที่ผิวหน้าคอนกรีตเสื่อมสภาพมากกว่า 70% อาจจำเป็นต้องทำการเสริมความหนาของผิวหน้าคอนกรีตเพื่อเพิ่มความคงทน
เมื่อผิวคอนกรีตทำการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว เราจึงทำการเคลือบผิวหน้าคอนกรีตเพื่อยึดอายุการใช้งาน โดยสามารถเลือกวัสดุเคลือบได้หลากหลาย ถ้าเป็นบ่อที่ใช้งานแล้วต้องการบูรณะปรับปรุง มักจะใช้ผลิตภัณท์ซีเมนต์กันซึม ชนิด 2 ส่วนผสม และทาอย่างน้อย 3 เที่ยว หรือหากต้องการให้ผิวคอนกรีตมีความทึบน้ำเพิ่มขึ้นสามารถพ่นกันซึมชนิดคริสตัลไลน์เพื่อให้ผิวคอนกรีตทึบน้ำก่อนทาซีเมนต์กันซึมก็ได้
ผิวหน้าจะแห้งภายใน 12 ชั่วโมงก็สามารถเติมน้ำและตัดต่อท่อเข้าบ่อน้ำดีเดิมได้ปรกติ
การซ่อมแบบวิธีที่สองคือการใช้วิธีการอัดน้ำยาหรือเรียกว่า injection system โดยใช้เรซิ่นชนิดต่างๆคือ epoxy resin, polyurethan resin, acrylate resin หรืออื่นๆ โดยใช้การเจาะรูลงบนรอยรั่วแล้วอัดน้ำยาลงไปในรู เมื่อน้ำเรซิ่นสัมผัสกับน้ำ ก็จะขยายตัวเป็นสารทึบน้ำหรือ foam foriming เพื่อ block น้ำที่มีแรงดัน การอัดน้ำยาจำเป็นต้องใช้เครื่องอัดน้ำยาที่มีแรงดันเพื่จะสามารถอัดน้ำยาลงไปในรอยร้าวขนาดเล็กได้ ทั้งนี้การซ่อมแบบนี้เป็นการซ่อมที่ถาวรและสามารถทนต่อแรงดันน้ำที่รั่วซึมได้เป็นอย่างดี ส่วนผิวหน้าสามารถฉาบปิดผิวด้วยซีเมนต์มอร์ต้ารหรือปูนฉาบได้ ไม่มีปัญหา
สนใจซ่อมน้ำรั่วซึม pu injection, polyurethane foam injection ติดต่อได้ที่ Line ID: orlanx
Comments