บริการรับเหมาติดตั้งทำระบบพื้นอีพ็อกซี่

Epoxy Flooring system

ระบบพื้นอีพ็อกซี่ (Eproxy) คือ พื้นที่มีวัสดุหลักมาจากอีพ็อกซี่เรซิ่น โดยทั่วไปอีพ็อกซี่มักมี 2 ส่วนผสม มีคุณสมบัติหลักคือมีความแข็งแกร่งและสวยงาม ทนทานต่อการใช้งานมากกว่าผิวหน้าคอนกรีตธรรมดาหรือผิวหน้าขัดมันทั่วไป ระบบพื้นอีพ็อกซี่มีใช้แพร่หลายในโรงงานอุตสาหกรรม (พื้นโรงซ่อมบำรุง) (พื้นโชว์รูม) เหตุผลอีกหนึ่งประการของพื้นอีพ็อกซี่คือทำความสะอาดง่ายสามารถรักษาสภาพผิวหน้าอย่างน้อย 3-5 ปี ทนทานต่อน้ำมันและสารเคมีอาจกระเด็นลงพื้น และมีราคาไม่สูงมากในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นวัสดุที่ง่ายต่อการผลิตและมีใช้มานาน ไม่มีฝุ่นหรือเศษวัสดุจากการใช้งานที่หนัก พื้นอีพ็อกซี่มีใช้งานมานานถึง 50 ปี และยังมีใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้ ก็เนื่องมาจากเหตุผลข้างต้น ปัจจุบันแบ่งพื้นอีพ็อกซี่ออกได้เป็น 2 ประเภทคือ

ระบบพื้นอีพ็อกซี่ชนิดโค้ชติ้ง (Epoxy coating)

เรียกว่าสีอีพ็อกซี่ (สี epoxy) เป็นระบบพื้นอีพ็อกซี่ที่มีความบางประมาณ 150-250 ไมคอน ใช้กับพื้นผิวทั่วๆ ไป สำหรับคนเดินได้ แต่ไม่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมหนัก ฟังชั่นผิวมีสีสวยงาม การติดตั้งอีพ็อกซี่ชนิดทาประกอบด้วยชั้นแรกเป็นชั้นรองพื้นอีพ็อกซี่ ชั้นถัดมาเป็นชั้นอีพ็อกซี่สามารถเลือกสีได้หลากหลายสี สีอีพ็อกซี่สามารถป้องกันฝุ่น น้ำมันได้ดีระดับกลางไม่นิยมใช้สำหรับภายนอกควรใช้ภายในอาคารเท่านั้น ทั้งนี้อีพ็อกซี่ชนิดนี้มีราคาประหยัดไม่สูงมาก แต่ให้ความสวยงามได้พอประมาณ มักจะเป็นลักษณะผิวส้ม

ราคาพื้น epoxy coating โดยประมาณจะอยู่ที่ 300-400 บาท ตามพื้นผิวที่ต้องเตรียม
อายุการใช้งาน โดยประมาณ 2-5 ปี ตามการใช้งานปกติ
การบำรุงรักษา สามารถเช็ดถูทำความสะอาดได้ทั่วไป

พื้นอีพ็อกซี่สามารถไหลตัวได้ (Epoxy self leveling)

พื้นอีพ็อกซี่ชนิดนี้เป็นชนิด High grade มีความคงทนและทนทานสูงมีความหนาอย่างน้อย 3-6 มิลลิเมตร ทนทานสำหรับรถโฟล์คลิฟ และพื้นที่ๆ ต้องรับน้ำหนักสูง สามารถใช้กับพื้นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีความทนทานต่อน้ำมันและสารเคมีในระดับสูง พื้นผิวเรียบเนียนสวยงามเป็นเนื้อเดียวกันไม่มีรอยต่อ พื้นระบบอีพ็อกซี่นี้นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากความสะอาด การบำรุงรักษาที่เป็นปัจจัยในการใช้งานโดยไม่จำเป็นต้องดูแลรักษาตลอดทุกปี การติดตั้งพื้นระบบอีพ็อกซี่ฃนิดนี้ต้องใช้ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์มายาวนาน การแก้ไขหรือซ่อมแซมพื้นเดิมสามารถทำได้

ราคาพื้น epoxy โดยประมาณ 500-1000 บาท ต่อตารางเมตร
อายุการใช้งาน 4-6 ปี

การติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่และสีทาอีพ็อกซี่ (Installation of epoxy floor)

การติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่มีปัจจัยหลักดังนี้

1. การเตรียมพื้นผิวโดยดูที่พื้นผิวสภาพหน้างาน

2. การซ่อมผิวโดยเป็นการซ่อมรอยร้าวผิวแตกและการร่อนของผิวหน้า

3. การตรวจสอบความสมบูรณ์ของพื้นผิวคอนกรีต

4. การติดตั้งน้ำยารองพื้นเพื่อปรับสภาพผิว

5. การติดตั้งระบบอีพ็อกซี่หรือทาพื้นด้วยสีอีพ็อกซี่

จะเห็นว่ามีขั้นตอนหลายส่วนที่จำเป็นในการติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่จึงจำเป็นต้องใช้ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และชำนาญเป็นพิเศษ

ข้อดีของการใช้งานของระบบพื้นอีพ็อกซี่

1. ทนทานต่อการขัดสีเช่นโฟล์คลิฟหรือว่าเครื่องจักร

2. ทนทานต่อสารเคมีที่จะตกลงพื้น

3. ทนทานต่อน้ำมันและน้ำ

4. มีพื้นผิวสวยงาม

5. รับน้ำหนักที่ผิวหน้าได้มากเช่นติดตั้งเครื่องจักร

6. ทนทานต่อแรงกระแทกเช่นของตก เครื่องมือตก

การเลือกใช้งานระบบพื้นอีพ็อกซี่ ควรเลือกใช้งานตามฟังชั่นการใช้งานเช่นการเลือกประเภทของพาหนะที่ใช้ในโรงงานจำเป็นต้องเลือกวัสดุที่ทนทานต่อการขัดสีอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้พื้นอีพ็อกซี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการตอบสนองพื้นผิวแบบนี้

เครื่องมือ อุปกรณ์ทั่วไป

การเตรียมพื้นผิวก่อนติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่ (surface preparation)

การเตรียมพื้นผิวสำหรับพื้นอีพ็อกซี่

ในบริการ รับเหมาทำพื้นอีพ็อกซี่ หรือพื้นอุตสาหกรรม จะต้องมีการเตรียมพื้นผิวก่อน ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่จะทำให้การทำพื้นผิวประสบความสำเร็จ ไม่เกิดการแตกร้าว หรือหลุดร่อนก่อนเวลาอันควร ปัญหาพื้นอีพ็อกซี่โดยมากเกิดจากการเตรียมพื้นผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน การค้นหาคำตอบว่าวิธีการไหนที่จะเตรียมพื้นผิวได้ดีที่สุด เป็นคำถามที่ผู้รับเหมาระบบพื้นอีพ็อกซี่คำนึงถึงอย่างที่สุด เราจะมาดูกันว่าวิธีการไหนที่สอดคล้องกับ วัสดุอีพ็อกซี่ที่ใช้ดังเช่น ควรเตรียมพื้นผิวประเภทขัดกระดาษทรายหรือเตรียมพื้นผิวชนิดลอกผิวหน้าเราจะมาไล่เรียงวิธีการจากเบาไปหนัก

วิธีการขัดพื้นโดยการดาษทราย

เป็นวิธีการเตรียมพื้นผิวหน้าที่บางเบาที่สุดโดยมากใช้เครื่องขัดชนิดเบาที่มีกระดาษทรายที่ผิวขัดผิวหน้าเป็นรอยขุขะไม่ยุบ การเตรียมพื้นผิวแบบนี้เหมาะสำหรับการใช้อีพ็อกซี่ชนิดทาไม่มีความหนามากนัก

เครื่องขัดผิวหน้าชนิดขัดผิว

เครื่องขัดแบบนี้ในปัจจุบันไม่ค่อยได้ใช้มากนักซึ่งจะกล่าวในหัวข้อถัดไป ส่วนใหญ่จะใช้กับพื้นผิวที่มีกำลังอัดไม่สูงมากเนื่องจากข้อจำกัดด้านหัวขัดทำมาจากหิน

เครื่องขัดชนิดหัวเพชร

เป็นเครื่องมือขัดที่เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันเพราะใช้งานได้หลากหลาย สามารถใช้งานได้ทั้งพื้นผิวที่ไม่แข็งแกร่งมากและพื้นผิวที่แข็งแกร่งมาก สามารถลอกผิวหน้าสีเก่าหรือคราบน้ำมันที่เกาะบนพื้นผิวได้ เครื่องขัดหัวเพชรนี้สามารถทำให้เกิดรอยขูดหน้าลายได้ลึกเกิดเป็นรอยโปรไฟล์ เพื่อให้เกิดการยึดเกาะระหว่างระบบพื้นอีพ็อกซี่และพื้นผิวคอนกรีต เครื่องขัดชนิดนี้เหมาะมากกับพื้นอีพ็อกซี่ไหลตัวได้ ที่มีความหนาประมาณ

3 มิลลิเมตร ขึ้นไป

เครื่องยิงเม็ดลูกเหล็ก (Shot – Blasting)

เป็นเครื่องมือที่มีความรุนแรงในการขัดผิวหน้ามากกว่าเครื่องขัดผิวทั่วๆไป สามารถขัดผิวได้ลึกถึงชั้นคอนกรีตใช้กับพื้นผิวอีพ็อกซี่ที่ต้องการความหนาตั้งแต่ 3 มิลขึ้นไป ข้อควรระวังคือ พื้นผิวคอนกรีตควรมีคุณภาพสูงและกำลังอัดสูงเรียกว่าต้องมีการเทพื้นผิวที่ดีมาก

เครื่องขุดรอกผิวหน้า (Scarifying)

เครื่องนี้เรียกว่า เครื่องขุดรอกผิวหน้าโดยมากใช้สำหรับการรื้อระบบอีพ็อกซี่ที่เก่าเพื่อทำใหม่ สามารถขุดผิวหน้าได้ลึกถึง 5 มิลลิเมตร ใช้สำหรับการขุดรอยพื้นผิวเก่าโดยเฉพาะใช้กับงานเตรียมพื้นผิวที่ต้องการความหนาเป็นพิเศษ

การเลือกเครื่องมือขัดควรดูที่ปัจจัยหลายๆ อย่างดังเช่น ความหนาของพื้นอีพ็อกซี่ พื้นที่ในการใช้งาน มีพื้นเก่าเดิมให้ลอกออกหรือไม่ พื้นที่ทั้งหมดที่จะต้องทำการเตรียมพื้นผิว ลักษณะของพื้นผิว งบประมาณในการเตรียมพื้นผิว โดยทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้รับเหมาอีพ็อกซี่ในการเลือกใช้ชนิดของเครื่องให้เหมาะสมกับหน้างานแต่ละงาน ควรทำการตรวจสอบหลังจากขัดพื้นผิวเรียบร้อยว่าเหมาะสมกับระบบพื้นอีพ็อกซี่ที่ต้องการหรือไม่

รอยต่อในงานพื้นอีพ็อกซี่ (Joint on Epoxy Floor)

รอยต่อบริเวณพื้นในงานระบบพื้นอีพ็อกซี่นั้น เป็นปัญหาหรือปัจจัยสำคัญ เนื่องจากระบบพื้นอีพ็อกซี่เป็นระบบพื้นที่ไม่มีรอยต่อ เราจึงไม่ต้องการให้มีรอยต่อบนพื้นผิวหน้าอีพ็อกซี่เกิดขึ้น คำถามก็คือเราควรจะปิดผิวหน้าอีพ็อกซี่ทั้งหมด? หรือเราควรจะเว้นว่างรอยต่อที่ผิวหน้าดั?

ก่อนอื่นเราจะมาทำความเข้าใจถึงรูปแบบรอยต่อของพื้นกันก่อน รอยต่อของพื้นหลักๆ มีอยู่ 2 ชนิดคือ

1. รอยต่อที่เคลื่อนตัวได้

2. รอยต่อที่ใช้สำหรับควบคุมรอยแตกร้าวที่ผิวหน้าคอนกรีต

รอยต่อที่เคลื่อนตัวได้

รอยต่อชนิดนี้เรียกว่ารอยต่อขนาดใหญ่มีขนาดกว้างตั้งแต่ 10-30 มิลลิเมตรขึ้นไป จุดประสงค์เพื่อใช้ในการเคลื่อนตัวของอาคารอันเนื่องมาจากอุณหภูมิ แรงลม การทรุดตัว อื่นๆ ส่วนมากจะพบได้ที่ระยะ 20-30 เมตร และบางครั้งเป็นรอยต่อระหว่างอาคารใหม่และอาคารเก่าเพื่อเชื่อมต่อทั้ง 2 อาคารเป็นอาคารเดียว รอยต่อประเภทนี้ห้ามปิดผิวหน้าด้วยระบบพื้นอีพ็อกซี่ควรทำการเว้นระยะและติดตั้งรอยต่อเพื่อการเคลื่อนตัวโดยเฉพาะ โดยมากมักเป็นเหล็กหรืออลูมิเนียม เหตุผลเนื่องจากระบบพื้นอีพ็อกซี่เป็นระบบพื้นค่อนข้างแข็งถ้าติดตั้งโดยปิดผิวรอยต่อประเภทนี้จะทำให้เกิดรอยแตกร้าว ระบบพื้นอีพ็อกซี่สามารถแบ่งรอยต่อให้ขาดจากกันได้โดยใช้ระบบ Expansion Joint

รอยต่อเพื่อควบคุมการแตกร้าว

รอยต่อแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการตัดผิวหน้าคอนกรีตที่ผิวหน้าลึกลงไปประมาณ 4-10 มิลลิเมตรทุกช่วงความยาว 5-10 เมตร จุดประสงค์เพื่อยอมให้คอนกรีตหกขยายตัวได้ในช่วงบ่มคอนกรีต ถ้าไม่มีการตัดผิวหน้ารอยต่อจะเกิดรอยร้าวมากมายที่บริเวณรอยต่อชนิดนี้สามารถติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่บริเวณรอยต่อชนิดนี้ได้ แต่เราจะแนะนำยาแนวที่ร่องรอยต่อ การทำการเปิดผิวอีพ็อกซี่โดยยาแนวที่จะใช้นั้นควรเป็นยาแนวที่ทาสีได้และมีคุณสมบัติยืดหยุ่นได้ เราจะไม่แนะนำยาแนวชนิดซิลิโคนหรือโพลียูนิเทน แต่เราจะแนะนำยาแนวชนิด MS โพลีเมอร์ ทั้งสามารถตอบโจทย์ทั้ง 2 คุณสมบัตินี้ได้

ความหนาพื้นอีพ็อกซี่

ความหนาของพื้นอีพ็อกซี่ เป็นคำถามที่ถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นสำหรับการติดตั้งรับเหมาทำพื้นอีพ็อกซี่ เนื่องจากมีความหนาที่หลากหลาย โดยพื้นอีพ็อกซี่จะมีความหนาตั้งแต่ 300 ไมคอนถึง 6 มิลลิเมตร

ความหนาของพื้นอีพ็อกซี่ชนิดทา

ระบบพื้นแบบนี้จะประกอบด้วยสีรองพื้น 1 เที่ยว และสีอีพ็อกซี่ 2 เที่ยว ระบบนี้จะมีความหนาโดยประมาณ 300-600 ไมคอน พื้นอีพ็อกซี่ชนิดนี้ส่วนใหญ่จะใช้ในงานเททั่วๆไป เพิ่มความสวยงามและลดฝุ่น สามารถใช้ในห้องเก็บของหรือ ที่ๆ มีคนเดินผ่านได้ ถ้าต้องการเพิ่มความหนาในระบบอีพ็อกซี่นี้ซึ่งจะมีความหนาเพิ่มขึ้น 1-2 มิลลิเมตร ทำได้โดยโรยทรายและทาสีอีพ็อกสีเพิ่มขึ้นได้อีก 1-2 เที่ยว

ความหนาของระบบพื้นอีพ็อกซี่ชนิดไหลตัวได้

ระบบอีพ็อกซี่ชนิดนี้จะเริ่มที่ความหนา 2 มิลลิเมตร แต่ทางบริษัทเราจะแนะนำให้เริ่มต้นที่ 3 มิลลิเมตร ซึ่งจะทำให้พื้นผิวมันวาวและเรียบสนิท ทนทานมากกว่า บางครั้งความหนา 3-4 มิลลิเมตร อาจไม่เพียงพอกับพื้นโรงงานบ้างประเภทซึ่งมีการใช้งานอย่างหนักมีการคัดสีของพื้นผิวตลอดเวลา มีแรงกระแทกจากวัสดุ มีน้ำหนักของวัสดุอยู่บนพื้นตลอดเวลา มีรถโฟคลิฟท์วิ่งตลอดเวลา ซึ่งจำเป็นต้องให้พื้นมีความหนาประมาณ 5 มิลลิเมตรขึ้นไป โดยอาจจะมีขึ้นอีพ็อกซี่สกีส โดยหนาประมาณ 2-3 มิลลิเมตรอยู่ระหว่างกลางเพื่อเป็นตัวเพิ่มความหนา ทั้งนี้ทั้งนั้นควรทำการเตรียมพื้นผิวอย่างดีเยี่ยมเพื่อรองรับพื้นอีพ็อกซี่ที่มีความหนามากๆ

ชนิดของพื้นอีพ็อกซี่

Epoxy coating

พื้นอีพ็อกซี่ชนิดทา

Epoxy Self leveling

พื้นอีพ็อกซี่ชนิดเท

การตรจสอบพื้น eproxy หลังเสร็จงาน

ตรวจสอบความหนา

ให้ทำการตรวจสอบ DFT หรือ Dry film thickness หลังจากติดตั้งและบ่มตัวเรียบร้อยแล้วว่าอยู่ในค่าที่รับได้

ตรวจสอบความเรียบที่ผิวหน้า

ตรวจสอบความเรียบเนียนของผิวหน้าพื้นอีพ๊อกซี่

ตรวจสอบรอยแตกร้าว

หารอยร้าวหรือรอยแตกที่อาจจะพบได้บริเวณพื้นอีพ๊อกซี่

ตรวจสอบฟองอากาส

พื้นผิวต้องไม่มีพองอากาสใดๆ

ตรวจสอบรอยต่อ joint ต่างๆ

ว่าอยู่ในสภาพดี สมบูรณ์หรือไม่

รูปแบบการติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่

พื้นแบบนี้ยังเป็นพื้นแบบ epoxy coating แต่เพิ่มความหนาในส่วนของ epoxy putty sand mortar เพื่อเสริมความแข็งแรง และทนทาน พื้นอีพ็อกซี่แบบนี้ ทนทานกว่าแบบไม่มี mortar อยู่ 50% เนื่องจากมีชั้นรับแรงเพิ่มการยึดเกาะ

ปัญหาฟองอากาสในพื้นอีพ็อกซี่

การหลีกเลี่ยงปัญหาฟองอากาศในระบบพื้นอีพ็อกซี่

ปัญหาฟองอากาศเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในการบริการรับทำพื้น eproxy ซึ่งการเกิดรูเล็กๆ บนผิวหน้าของพื้นอีพ็อกซี่พินโฮล (Pinhole) เกิดจากฟองอากาศระหว่างการติดตั้งระบบทำพื้นอีพ็อกซี่ โดยการซ่อมแซมฟองอากาศนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากหรืออาจซ่อมแซมไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นในการให้บริการรับเหมาทำพื้นอีพ็อกซี่ ควรทำการป้องกันไม่ให้เกิดฟองอากาศระหว่างการติดตั้งระบบพื้นอีพ็อกซี่

ปัญหาการเตรียมพื้นผิว

1. ปัญหาจากการพรุนในคอนกรีต

ปัญหานี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เกิดฟองอากาศการติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่เมื่อทำการติดตั้งน้ำยารองพื้นแล้วพบว่าพื้นผิวคอนกรีตดูดซับน้ำยารองพื้นควรทำการทาน้ำยารองพื้นอีกเที่ยวเพื่อครอบคลุมพื้นผิวทั้งหมด ในบ้างกรณีที่มีความชื้นสะสมใต้พื้นผิวมากๆ อาจจะต้องทำพื้นผิวอีพ็อกซี่สกีสรองรับความหนาประมาณ 1 มิล เพื่อทำการบล็อกความชื้น บ้างกรณีเมื่อติดตั้งพื้นผิวอีพ็อกซี่ไปแล้วขณะที่กำลังใช้ลูกกลิ้งหนามเพื่อลดฟองอากาศในชั้นผิวอีพ็อกซี่ แต่พื้นผิวอีพ็อกซี่ยังเกิดฟองอากาศพรุดขึ้นมาตลอดเวลาการทำจะแก้ไขยากให้ระลึกอยู่เสมอว่าการเตรียมพื้นผิวและน้ำยารองพื้นเป็นขั้นตอนที่สำคัญ

2. ความชื้นในบรรยากาศ

ความชื้นสัมผัสเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาในระบบพื้นอีพ็อกซี่เช่นการลอกร่อนและเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดฟองอากาศได้เช่นเดียวกัน ควรแน่ใจว่าพื้นผิวคอนกรีตมีความแห้งสนิท ถ้าไม่แน่ใจให้ทำการทดสอบความชื้นบนผิวหน้าคอนกรีตซึ่งมีหลายวิธี

3. รอยต่อคอนกรีตชนิดขยายตัวได้

พื้นผิวคอนกรีตมีความขยายตัวระหว่างวันโดยในตอนเช้า-มืด จะมีความชื้นและความเย็นสะสมอยู่และระหว่างวันจะแห้งตัวลง เพราะฉะนั้นการติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่ช่วงเช้า-มืด อาจจะทำให้เกิดฟองอากาศได้ ควรติดตั้งหลังเที่ยงเป็นต้นไป

4. ความไม่ชำนาญของผู้ติดตั้ง

การใช้ผู้ไม่ชำนาญติดตั้งพื้นอีพ็อกซี่ผู้ทำการติดตั้งควรทำการไล่ฟองกาอาศให้ทั่วบริเวณอีพ็อกซี่และสังเกตการณ์เกิดคลื่นของฟองอากาศตลอดเวลา ให้สังเกตตรงขอบและมุมต่างๆ ซึ่งจะมีฟองอากาศเกิดขึ้น การตรวจสอบฟองอากาศควรมีแสงสว่างเพียงพอ

5. การเติมตัวทำละลาย

การผสมตัวทำละลายให้มากขึ้นเพื่อไหลตัวให้ดีขึ้นเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้ติดตั้งที่ไม่มีประสบการณ์ ตัวทำละลายจะละเหยออกและทกให้เกิดฟองอากาศหรือรูเล็กๆ หากจำเป็นต้องผสมตัวทำละลาย หากไม่จำเป็นให้เลือกตัวทำละลายให้น้อยที่สุดหรือไม่ผสมเลย

6. การผสมสัดส่วนอีพ็อกซี่เร็วเกินไป

การผสมที่เร็วเกินไปจะเป็นการเพิ่มฟองอากาศในเนื้ออีพ็อกซี่ เมื่อเทลงมาฟองอากาศนั้นก็จะยังอยู่ที่ผิวหน้าอีพ็อกซี่ การจะดึงฟองอากาศออกเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก

7. วัสดุอีพ็อกซี่คุณภาพต่ำ

วัสดุอีพ็อกซี่คุณภาพต่ำมักจะไม่มีสารลดฟองเป็นผงให้ทำการผสม 2 ส่วนจะเป็นผลให้เกิดฟองอากาศไม่หมด